สุขภาพช่องปากที่ดีเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

ช่องปากเปรียบเสมือนประตูสู่การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี มาดูกันว่าสุขภาพช่องปากสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกายอย่างไร

ร่างกายของเรามีแบคทีเรียจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ แต่หากแบคทีเรียเหล่านี้เจริญมากเกินไปหรือไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่ไม่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้ร่างกายติดเชื้อได้

ช่องปาก (oral cavity) ซึ่งหมายความรวมถึงช่องปากและลำคอ เป็นหนึ่งในบริเวณของร่างกายที่แบคทีเรียชอบอาศัยอยู่ เนื่องจากช่องปากเชื่อมสู่กระเพาะอาหารผ่านหลอดอาหาร และเชื่อมสู่ปอดผ่านทางหลอดลม ช่องปากจึงเปรียบเสมือนประตูทางผ่านที่สำคัญที่จะไปสู่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ดังนั้นการควบคุมปริมาณแบคทีเรียในช่องปากและลำคอให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องสุขภาพของช่องปาก เหงือก ฟัน และลำคอแล้ว แต่ยังช่วยปกป้องร่างกายจากการอักเสบหรือภาวะอื่น ๆ จากแบคทีเรียก่อโรค

ทำอย่างไรให้ช่องปากและลำคอมีสุขภาพที่ดีในทุกวัน

เพราะปากและลำคอทำหน้าที่เป็นประตูสู่ภายในร่างกาย การรักษาสุขภาพช่องปากให้มีสุขภาพดีเป็นอันดับแรก ก็จะสามารถรักษาสุขภาพร่างกายส่วนอื่นให้มีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย กิจวัตรประจำวันที่สามารถทำได้ง่ายที่จะช่วยให้มีสุขภาพช่องปากและลำคอที่ดีมีดังนี้

การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน

การแปรงฟันวันละ 2 ครั้งเป็นกุญแจสำคัญของการกำจัดคราบพลัคและแบคทีเรียผลิตกรดที่ก่อตัวบริเวณเหงือกและฟัน ช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุ และเป็นโรคเหงือก การใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นเคลือบฟัน (enamel) การใช้ไหมขัดฟันทุกวันจะช่วยทำความสะอาดบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง เช่น ซอกฟัน ซอกเหงือก ทั้งยังขจัดคราบพลัคส่วนเกินอีกด้วย

การบ้วนปาก

การบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหลังแปรงฟันและหลังใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยกำจัดคราบอาหารที่ยังหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้ การใช้สเปรย์พ่นในช่องปากระหว่างวันจะช่วยให้ช่องปากและลำคอสะอาดและสดชื่น

ระวังเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม

การจำกัดเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง การรับประทานอาหารที่สมดุลเพื่อสุขภาพที่ดี หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และผลิตภัณฑ์จากยาสูบ

สุขอนามัยที่ดีช่วยป้องกันอาการเจ็บคอ

เห็นได้ชัดว่าการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีเป็นขั้นตอนสำคัญของร่างกายที่แข็งแรง แต่เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันอาการเจ็บคอก็คือการรักษาสุขอนามัยที่ดีเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ

หมั่นล้างมือให้สะอาด

ล้างทุกส่วนของมือและนิ้วมือด้วยสบู่และน้ำอุ่นเป็นเวลา 30 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคแทนการล้างมือหากไม่สะดวก

สวมหน้ากากอนามัย

การสวมหน้ากากที่แนบกระชับกับใบหน้าและปกปิดจมูก ปากและคาง โดยเฉพาะขณะอยู่ภายในอาคารหรือบริเวณที่มีคนหนาแน่น จะช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการเจ็บคอ

รักษาระยะห่าง

ปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่าง เลี่ยงการพบปะกับคนที่กำลังป่วย หากเริ่มมีอาการคันคอ ดีที่สุดคือการกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค